เมื่อข้อมูลกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานของธุรกิจยุคใหม่ งานสาย Data เป็นอีกหนึ่งสายงานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในบริษัทสายเทค (Technology Company) ทั้งในไทยและในระดับโลก หลายคนที่ไม่ได้เรียนจบด้านนี้มาโดยตรงก็อาจจะสงสัยว่าหากอยากเข้าสู่สายงานด้าน Data ต้องเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้เราจะมาแนะนำการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่งาน Data
ตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าทำไมถึงอยากทำงานสายนี้
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจย้ายสายงาน คุณควรตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าทำไมต้องเป็นสายงาน Data เพราะถ้ามองเรื่องค่าตอบแทนที่สูง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะการทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ เป็นเรื่องปกติ
ถ้าคุณสนใจในเรื่องของรายได้เป็นหลัก อาจจะลองพิจารณาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาและเปรียบเทียบกับเส้นทางอื่นๆ ก็มีทางเป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้พอ ๆ กับการย้ายมาสายงาน Data ไหม เพราะอย่าลืมว่าการย้ายสายงานทุกครั้ง ก็เหมือนกับการเริ่มจาก 0 ใหม่ ที่คุณต้องค่อย ๆ ไล่ระดับเงินเดือน ซึ่งกว่าจะถึงจุดที่ได้เงินเดือนดีกว่าเดิม ตอนนั้นคุณอาจจะไม่อินกับงาน Data แล้วก็ได้
แต่ถ้าคุณมีแพชชั่นกับมัน และมีความสนใจในสายงานนี้จริง ๆ ก็ลุยต่อได้เลย :)
ลงเรียนเพิ่มสกิล
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าควรเรียนปริญญาใบใหม่หรือลงคอร์สเรียนออนไลน์ดี เราเปรียบเทียบข้อแตกต่างให้ดังนี้
เรียนปริญญาโท
ข้อดี
คุณจะมีเพื่อนร่วมห้องและได้ Connection จากหลายๆที่ ซึ่งอาจจะทำให้คุณสามารถเข้าสู่สายงาน Data ได้ง่ายขึ้น
ข้อเสีย
ทั้งต้นทุนเรื่องเงินและเวลา เริ่มจากเงินก่อน โดยปกติค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาโทจะอยู่ประมาณ 200,000 - 300,000 บาทตลอดหลักสูตร ซึ่งยังไม่รวมค่าเดินทางและอื่นๆ นอกจากเงินที่ต้องเสียไปแล้วเรายังต้องเสียเวลาที่ต้องมาใช้อยู่กับหลักสูตรนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาเรียนที่หลักสูตรกำหนด การบ้านที่ต้องทำ ธีสิต หรือ IS ที่ต้องเขียน เพราะส่วนใหญ่เราจัดเวลาเรียนเองไม่ได้
เรียนคอร์สออนไลน์
ข้อดี
อย่างแรกเลยคือสามารถประหยัดต้นทุนเรื่องเงินและเวลาได้มากกว่าการเรียนปริญญาโท คอร์สเรียนออนไลน์นั้นราคาไม่สูงนัก รวมทั้งยังมีส่วนลดสม่ำเสมอทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการ Upskill มาสายงาน Data ได้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นคุณสามารถเลือกเรียนได้ในเวลาที่สะดวก ทุกที่ที่ต้องการ เพียงแค่สมัครคอร์สแล้วเรียนให้จบคุณก็ได้จะรับประกาศนียบัตรมาอยู่ในพอร์ทงาน
ข้อเสีย
เราเรียนคนเดียวไม่มีเพื่อน หรือถ้ามีก็จะเป็น Community Online ทำให้มีแรงจูงใจในการเรียนไม่เท่าการเรียนในห้อง ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถเรียนจบคอร์สได้อย่างที่ตั้งใจไว้
เหตุผลที่หลายคนตัดสินใจเรียนปริญญาโทก็เพราะอยากเจอเพื่อน และรู้จักคนใหม่ๆ เพราะว่าคอนเนคชั่นก็มีส่วนสำคัญในการหางาน ซึ่งส่วนนี้อาจจะหายากในการเรียนคอร์สออนไลน์ อาจจะมีเจอในคลาสออนไลน์บ้าง แต่ก็อาจจะไม่เหมือนกับการไปเจอคนจริงๆ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์
การสมัครเข้าร่วม Camp หรือ Workshop ต่างๆ สามารถช่วยเพิ่มทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ของเราได้ เป็นเหมือนสนามจำลองก่อนเข้าไปทำงานในสายงานนี้เต็มตัว ทั้งคุณอาจจะได้รู้จักเพื่อนที่มีความสนใจด้านเดียวกัน รวมทั้งได้ Connection อีกด้วย
ข้อดีของการทำงานสาย Data
แน่นอนว่าสาย Data หากเราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ บวกกับพัฒนาสกิล คุณสามารถทำเงินเดือนได้สูงถึงหลักแสน ซึ่งหลายๆคนอาจจะมองเห็นจุดนี้เลยตัดสินใจที่จะย้ายสายงานมาทำงาน Data
ยกตัวอย่างเงินเดือนตำแหน่งในสายงาน Data
Data Analyst หรือ นักวิเคราะห์ข้อมูล
รายได้โดยเฉลี่ย : ระดับ Junior ในไทยอยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาทต่อเดือน และถ้าเป็นระดับ High Levelโอกาสเพิ่มสูงขึ้นถึง 140,000-250,000 บาทตามประสบการณ์
Data Scientist หรือ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
รายได้โดยเฉลี่ย : ระดับ Junior ในไทยอยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาทต่อเดือน และถ้าเป็นระดับ High Levelโอกาสเพิ่มสูงขึ้นเกิน 150,000 บาทตามประสบการณ์
Data Engineer หรือ วิศวกรข้อมูล
รายได้โดยเฉลี่ย : ระดับ Junior ในไทยอยู่ที่ 30,000 – 50,000 บาทต่อเดือน และถ้าเป็นระดับ High Level มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นถึง 140,000-250,000 บาทตามประสบการณ์
Data มีประโยชน์มากในการทำธุรกิจ เป็นเหมือนหัวใจที่ทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้ เพราะ Data เป็นประโยชน์สำหรับการทำ Marketing ในการทำการตลาดให้ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย (Lead) ที่จะกลายมาเป็นลูกค้า (Customer) ในอนาคต ไปจนถึงทำให้ลูกค้ากลายเป็น ลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty)
ช่วยสร้างโอกาสให้นักการตลาดรู้จักกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่ง Data ที่นำมาวิเคราะห์นั้น สามารถใช้ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเมื่อใช้ Social Media, Traffic Website นอกจากนี้ Data ที่นักการตลาดนำมาวิเคราะห์ สามารถนำมาต่อยอดในการทำการตลาดแบบ Personalization ได้โดยการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตรงใจมากขึ้น สามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้ หรือตอบสนองความพึงพอใจได้ดีขึ้น รวมทั้งการสร้างคอนเทนต์ได้ตอบโจทย์มากขึ้นอีกด้วย
เมื่อคุณสามารถเข้าใจ Data และนำเสนอเพื่อประยุกต์ใช้การสายงานการตลาดได้แล้ว การจะไปต่อในการเริ่มต้นธุรกิจไม่ว่าจะเป็น Professional หรือเป็นเจ้าของธุรกิจก็สามารถทำได้ จากข้อมูล Insight ที่ได้มาจาก Data ต่าง ๆ ที่ได้รับมา
สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนสมัครงาน
RESUME บอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณ อาจจะใส่ทักษะ หรือประสบการณ์ที่ได้จากงานที่ผ่านมาที่มองว่าสามารถต่อยอดกับงานสาย Data ได้
Certificate หากคุณมีใบ Certificate แน่นอนว่าสำหรับคนที่ย้ายสายงานมา อาจจะช่วยเป็นแต้มต่อให้ใบสมัครงานของคุณดูน่าสนใจขึ้นมามากทีเดียว
Portfolio คุณควรมีติดตัวเอาไว้ เพราะเป็นเหมือนสมุดบันทึกประสบการณ์และบอกเล่าตัวตนของคุณได้มากกว่าใบสมัครหรือเรซูเม่ที่มีแค่ 1-2 หน้า
นอกจากจากนี้ก็ต้องเตรียม Hard Skills, Soft Skills, ภาษาอังกฤษ และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงานที่คุณสมัครด้วยเช่นกัน หากคุณยังไม่รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร สามารถเข้ามาอ่านบทความ เทคนิคสัมภาษณ์งานให้โดนใจ HR [ฉบับคนสาย IT]
ติดต่อ X10
X10 คือผู้ให้บริการจัดหา IT Outsource ให้กับองค์กรชั้นนำ และบริษัทขนาดใหญ่ทั่วประเทศ เรามีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 15 ปี และมีบริษัทชั้นนำในไทยไว้วางใจให้เราช่วยหา IT Outsource มากกว่า 50 บริษัท
ทีม IT Outsource ของเรามีจำนวนมากกว่า 500 คน ในสาขาต่าง ๆ อาทิ Developer, Tester, Business Analyst (BA), System Analyst (SA) และตำแหน่งอื่นๆ ในสายไอที
สนใจ IT Outsource ติดต่อเราได้ที่ Sales@extend-it-resource.com
ถ้าคุณสนใจงานด้าน IT Outsource ส่งเรซูเม่มาที่ team_recruitment@extend-it-resource.com ติดต่อที่ X10 เรามีทีม Recruiter ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กับการแนะนำงานในสาย IT
Comments