top of page

อยากเป็น Star ในการสัมภาษณ์งานต้องใช้เทคนิค STAR Model


อยากเป็น Star ในการสัมภาษณ์งานต้องใช้เทคนิค STAR Model


เมื่อเรารู้ว่าการทำ resume ดีทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง Step ต่อมาที่จะชี้ชะตาของคุณในการทำงานคือ การสัมภาษณ์งาน อาจจะพูดได้ว่าการสัมภาษณ์งานถือเป็น Soft Skill ที่เราต้องฝึกฝน เพราะอย่างหนึ่งที่เราต้องใช้คือ การสื่อสาร ทักษะนี้หลายๆคนที่ไม่คุ้นชินกับการพรีเซ็นท์บ่อยๆ อาจจะประหม่าอยู่บ้าง วันนี้เรามีเคล็ดลับสำหรับการสัมภาษณ์อย่าง STAR Model มาให้คุณทำความรู้จัก และสามารถนำไปปรับใช้ในการสัมภาษณ์งานหรือแม้แต่การเล่าเรื่องของตัวคุณเองได้


STAR Model คืออะไร

STAR Model เป็นเทคนิคการตอบคำถามที่ช่วยทำให้การตอบคำถามของคุณกระชับและตรงประเด็นมากขึ้น ใช้สำหรับการตอบคำถามประเภทอธิบายสถานการณ์หรือเล่าเรื่องของคุณ ซึ่งเป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่การสัมภาษณ์งาน โดย STAR Model อธิบายออกมาได้ดังนี้



STAR Model คืออะไร

  • S: Situation สถานการณ์ 

การเลือกพูดถึงสถานการณ์ของเรื่องราวให้เหมาะสม เพราะการระบุเหตุการณ์ต่างๆ เป็นการปูพื้นฐานที่ดีสำหรับการบอกเล่าการทำงานในโปรเจ็คของคุณที่ผ่านมา

 

  • T: Task เป้าหมาย 

ระบุเป้าหมายสำหรับเรื่องราวดังกล่าว เพื่อบ่งบอกว่าหน้าที่ของเรา ณ เวลานั้นต้องแก้ปัญหาสิ่งใด ทำให้ผู้สัมภาษณ์มองเห็นถึงความท้าทายที่เราต้องเผชิญ


  • A: Action การกระทำ 

บอกว่าเรามีการแก้ปัญหาอย่างไร อธิบายว่าหลังจากเรามีเป้าหมาย เราได้ทำอย่างไรต่อ ควรเป็นการระบุชี้ชัดว่าทำอย่างไร มีการวางแผนอะไรบ้าง เป็นขั้นตอนไป อย่าตอบแค่ว่าเราพยายามหรือทำงานอย่างหนักเพียงอย่างเดียว


  • R: Result ผลลัพธ์ 

อธิบายผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ว่าหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวสิ่งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลอย่างไรบ้าง จะดีมากหากคำตอบของเราเป็นสิ่งที่วัดผลได้ และอาจเพิ่มเติมสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปิดท้าย


ตัวอย่างการตอบคำถามสัมภาษณ์งานด้วย STAR Model

ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่ 1 สำหรับตำแหน่ง Project Manager 


Project Manager 

คำถาม

"ช่วยเล่าถึงโปรเจกต์ที่คุณเคยทำและประสบความสำเร็จได้อย่างไร?"


คำตอบโดยใช้ STAR Model

  1. Situation

    "ในตำแหน่ง Project Manager ที่บริษัทเดิม ดิฉันได้รับมอบหมายให้ดูแลโปรเจกต์การพัฒนาระบบ CRM สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โจทย์สำคัญคือการส่งมอบโปรเจกต์ภายใน 6 เดือน ซึ่งถือว่าท้าทายเพราะทีมงานเพิ่งรวมตัวกันและมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน"


  2. Task

    "หน้าที่ของดิฉันคือการวางแผนโครงการอย่างละเอียด ประสานงานระหว่างทีมพัฒนา ทีมออกแบบ UX/UI และลูกค้า เพื่อให้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน และจัดการความเสี่ยงเพื่อให้โปรเจกต์สำเร็จตรงเวลา"


  3. Action

    "ดิฉันเริ่มจากการจัดเวิร์กชอปกับทีมเพื่อทำความเข้าใจเป้าหมายของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จากนั้นแบ่งงานออกเป็นเฟสย่อย ๆ และกำหนด Timeline ชัดเจน ผมยังใช้ Agile Methodology เพื่อให้ทีมสามารถปรับตัวและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว นอกจากนี้ ประชุมอัปเดตสถานะกับลูกค้าทุก 2 สัปดาห์ และสร้างช่องทางสื่อสารที่สะดวกเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที"


  4. Result

    "โปรเจกต์เสร็จสิ้นภายในเวลา 5 เดือน ซึ่งเร็วกว่ากำหนด 1 เดือน ลูกค้าพึงพอใจมาก เพราะระบบ CRM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลลูกค้าของพวกเขาได้ถึง 30% ทีมเองก็รู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้ ซึ่งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมสำหรับโปรเจกต์ถัดไป"


จากตัวอย่างการตอบคำถามของตำแหน่งนี้ทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการโปรเจกต์ตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ และเหมาะสมกับตำแหน่ง Project Manager ที่ต้องมีทั้งการวางแผนและความเป็นผู้นำที่ดี


ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่ 2 สำหรับทีมหลังบ้าน ตำแหน่ง Software Tester 


 Software Tester 

คำถาม

"ช่วยเล่าถึงสถานการณ์ที่คุณเจอปัญหาในการทดสอบซอฟต์แวร์ และคุณแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร?"


คำตอบโดยใช้ STAR Model สำหรับตำแหน่ง Software Tester

  1. Situation

    "ในโปรเจกต์ที่ผมเคยทำงานร่วมกับทีมพัฒนา ผมได้รับมอบหมายให้ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของแอปพลิเคชัน E-commerce ซึ่งต้องเปิดตัวในอีก 2 สัปดาห์ แต่ระหว่างการทดสอบ ผมพบว่าระบบประมวลผลการชำระเงินมีบั๊กที่ทำให้คำสั่งซื้อบางรายการไม่ถูกบันทึก โดยปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้ใช้งาน"


  2. Task

    "หน้าที่ของผมคือการระบุสาเหตุของบั๊กนี้อย่างชัดเจน สื่อสารปัญหาให้ทีมพัฒนาเข้าใจ และช่วยตรวจสอบว่าการแก้ไขปัญหานั้นสำเร็จสมบูรณ์ก่อนกำหนดเปิดตัว"


  3. Action 

    • "ผมเริ่มจากการวิเคราะห์ Log และ Trace Error เพื่อหาขั้นตอนที่ทำให้เกิดบั๊กนี้ โดยใช้ Test Case ที่ออกแบบให้ครอบคลุมการใช้งานจริงหลากหลายรูปแบบ"

    • "ผมประสานงานกับทีมพัฒนาโดยสรุปข้อมูลที่ได้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมแนบ Screen Recording และขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อช่วยให้ทีมวิเคราะห์ได้เร็วขึ้น"

    • "หลังจากทีมพัฒนาแก้ไข ผมจัดการทดสอบ Regression Testing เพื่อให้มั่นใจว่าการแก้ไขไม่ส่งผลกระทบกับฟังก์ชันอื่น และเพิ่ม Automated Testing สำหรับส่วนนี้เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต"


  4. Result

    "บั๊กได้รับการแก้ไขภายใน 3 วันก่อนกำหนดเปิดตัว และระบบชำระเงินสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีรายงานปัญหาใด ๆ จากผู้ใช้งานหลังเปิดตัว ทีมได้รับคำชมจากลูกค้า และ Test Case ที่ผมเพิ่มเข้าไปช่วยลดเวลาการทดสอบในโปรเจกต์ถัดไปได้ถึง 20%"


คำตอบนี้ช่วยเน้นถึงความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับ Software Tester ที่ดี


สรุป

STAR Model เป็นอีกหนึ่งโมเดลการตอบคำถามสำหรับสัมภาษณ์งานเพื่อทำให้ตอบคำถามได้กระชับ สมเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น แม้แต่คนสัมภาษณ์เองก็ยังสามารถใช้โมเดลนี้เพื่อตั้งคำถามหรือประเมินการตอบคำถามของผู้ถูกสัมภาษณ์ได้อีกด้วย


ต้องบอกว่าถ้าอ่านมาจนถึงตรงนี้ท่านใดมีความต้องการหรือสนใจสายงาน IT Outsource มีทักษะหรือประสบการณ์ มองหาโอกาสดีๆ และอยากเติบโตในสายงาน IT กับบริษัทขนาดใหญ่ ส่งประวัติมาหา X10 ที่ team_recruitment@extend-it-resource.com  ติดต่อที่ X10 เรามีทีม Recruiter ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กับการแนะนำงานในสาย IT พร้อมสัมภาษณ์คุณ



18 views0 comments

Comments


bottom of page